Friday, February 29, 2008

About NATNALIN : เกี่ยวกับณัฐนลิน

(interview)
NATNALIN magazine focuses on fine art photography with recent interest
on street & documentary photographs. All texts in Thai and some French
[with some English ..sometimes] First published in 2003,now running into
the 5th year & many changes.

หนังสือณัฐนลิน เน้นงาน"ศิลปภาพถ่าย"..ความสนใจในระยะหลังมุ่งมาที่งาน
ภาพถ่ายสารคดีประเภท street & documentaryเป็นส่วนใหญ่ และยังคงเปลี่ยนแปลง
ไปตามกาลเวลาอยู่เสมอ ณัฐนลินเริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ. 2546 มาจนถึงปัจจุบันเข้าสู่ปีที่ 5



หนึ่งในกองบรรณธิการได้กล่าวว่า
"ความเปลี่ยนแปลงล่าสุด นับแต่ฉบับที่ 35 คือเพิ่มหน้าสี เปลี่ยนกระดาษในเล่ม
ใหม่ทั้งหมด..และแน่นอน ขึ้นราคามาเป็น 150 บาท ซึ่งอาจจะดูแพง (แบบโคตรๆ)
แต่เป็นไปตามต้นทุนการผลิต มิได้โก่งราคาให้คนก่นด่าเล่นๆแต่อย่างใด ด้วยต้นทุน
และราคาเพียงเท่านี้ สํานักพิมพ์แค่รักษาสภาพมิให้ต้องล้มละลายขายตัวไปก่อน
เวลาอันควร.."

หลายคนอาจแปลกใจว่าหนังสือเล่มนี้ เหตุใดจึงมีอายุยืนยาวมาได้จนถึงทุกวันนี้
ทั้งที่ในตอนแรก..เมื่อปี 46 บางคนอาจจะจํากันได้ว่า มีหนังสือประเภทอินดี้ หรือ
alternative อะไรแบบนั้น ออกวางแผงมากมาย เป็นที่ฮือฮาในวงการ และค่อยๆ
ล้มหายตายจากไปทีละเล่มสองเล่มจนหมด ขณะเดียวกัน ณัฐนลินเป็นหนึ่งในตัวเก็ง
ว่าน่าจะอยู่ไม่เกิน 3 เล่ม หรืออย่างมากก็ไม่เกินหนึ่งปี บางช่วงที่นิ่งๆเงียบๆไป
หลายคนก็คิดว่าเจ๊งแล้ว (แต่ไม่นาน..ก็โผล่กลับมาใหม่ทุกครั้ง)

หนึ่งในผู้ร่วมงานกับญัฐนลินมาแต่ต้นอธิบายว่า..

"ช่วงปี 46 อาจเป็นแฟชั่นหนังสือนอกกระแส ก็จริงอยู่ แต่ต่างที่หนังสือณัฐนลิน
ไม่ได้เกิดตามกระแสนั้น การที่เนื้อหา รูปร่างหน้าตาดูประหลาดไปจากหนังสือ
กระแสหลัก ก็เพราะมีต้นทุนเป็นเหตุปัจจัย ณัฐนลินเกิดขึ้นมาจากแนวคิดของ
หนังสือต้นทุนตํ่า เพราะมีการสํารวจตลาด ประเมินกันมาก่อนแล้วว่าหนังสือแบบนี้
ตลาดแคบ อยู่ในวงจํากัดมากๆ ทีนี้จะทําอย่างไรกับเรื่องนี้ คือไม่มีประโยชน์ที่จะ
ลงทุนมากมาย แล้วการสร้างตลาดขึ้นมาใหม่ หรือการสร้างกระแสให้เป็นที่นิยมนั้น..
ใช้เงินมหาศาล และเป็นที่พิสูจน์แล้วว่า "กระแส" อยู่ไม่นาน ไม่มั่นคง ไม่คุ้มการลงทุน
แม้แต่น้อย -- วิธีเดียวที่จะทําอะไรให้ได้ดั่งใจ หรือใกล้กับความตั้งใจเดิมมากที่สุด
ก็คือการจํากัดการลงทุน ..ทีนี้พอทุกอย่างมันจํากัดไปหมด ก็เริ่มส่งผลกับรูปร่างหน้าตา
ของหนังสือ เป็นการแก้ปัญหาทาง design ก็ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้างตามแต่กรณี
ค่อยๆเรียนรู้กันไป
ทีมงานทั้งหมดก็มาจากสายภาพถ่าย.. ช่วงเวลาที่ผ่านมา เราก็
ดูเพื่อนฝูงเล่มอื่นๆ ล้มหายไปจากแผงหนังสืออย่างตกตะลึง คือว่าพวกเขามีฐาน
ที่มั่นคงกว่าเรา มีผู้สนับสนุนและสังคมที่ดีกว่า มีพันธมิตรในวงการมากกว่า
ขณะที่ "ณัฐนลินตัวเป็นๆ" คือณัฐนลินที่เป็นเจ้าของหนังสือนั้น ค่อนข้างถนัดเรื่อง
การสร้างศัตรูมากกว่า.. แต่ทั้งหมดนั้น..ที่หนังสืออยู่รอดมาได้ก็เพราะความใจดี
ของผู้อ่านทุกท่าน คนอ่านคือปัจจัยหลักที่ทําให้หนังสือยังคงอยู่"

มีหลายคน..โดยเฉพาะสมาชิกในต่างประเทศ บ่นมาว่าตั้งแต่เล่ม 35
ดูเหมือนการวางรูปเล่มจะไม่พิศดารเหมือนก่อน ค่อนข้างจะเรียบง่ายเกินไป
ด้วยซํ้า ..จะชี้แจงอย่างไร

"ช่วงสองปีแรกคือการเรียนรู้ การทดลอง และอย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่ามีเหตุปัจจัย
ของต้นทุกและเนื้อหา ที่กําหนดให้รูปร่างมันเป็นแบบนั้น คือเป็นการเริ่มต้นกับ
เงื่อนไขใหม่ๆ เราก็เลยคิดว่าต้องโยนความคิด – วิธีการเดิมๆทิ้งไปให้หมด ทีนี้..
โลกมีแบบแผนอยู่เดิม แล้วก็มีสังคมที่อาศัยในแบบแผนนั้นๆ เมื่อมีอะไรแปลก
ประหลาดเกิดขึ้นมา ก็จะมีคนเกลียดชัง มีคนตื่นเต้น ..พูดง่ายๆ
คนที่เกลียดก็เกลียดฝังใจ คนที่ชอบ..เขาก็กลายมาเป็นผู้สนับสนุน นั่นคือสิ่ง
ที่เกิดขึ้นในช่วงสองปีแรก ..อีกสองปีหลังนั้น เริมเป็นความเคยชิน ทั้งกับคนทํา
หนังสือและผู้อ่าน จนเข้าปีที่ห้า..เราคิดว่าถึงเวลาขยับปรับเปลี่ยนกันอีกครั้ง
หนึ่งแล้ว ก็ลองขยับไปทางเรียบง่ายมากขึ้น"

อนาคตจะเป็นอย่างไร

"ตอนนี้เราเปลี่ยนโรงพิมพ์ใหม่ ตั้งแต่เล่ม 35..ในแง่คุณภาพการพิมพ์เป็นที่พอใจ
อย่างสูง ช่วยให้การทํางานของทีมงานสะดวกขึ้นกว่าเดิมมาก ส่วนโครงการอื่นๆ
ของสํานักพิมพ์ ยังนิ่งๆอยู่..ที่จริงมีอะไรให้ทําอีกมากมาย แต่ณัฐนลินตัวเป็นๆ
(เจ้าของ)อยู่ในช่วงการทํามาหากิน คือหนังสือไม่ใช่รายได้ ดังนั้นงานอาชีพหลัก
ของเขาต้องมาก่อน ต้องรอดูไปสักพัก"

ได้ข่าวว่าณัฐนลินไปถ่ายงานให้การบินไทยด้วย

"นั่นเมื่อปลายปีที่แล้ว (2007)..เขาใช้ไฟถ่ายหนังกันเลย ยังกะกองถ่ายภาพยนตร์"






No comments: