Wednesday, April 2, 2008

there comes a time when you don't need to say anything

NATNALIN 37 : sample

sample photographs from NATNALIN 37


NEWS from Publishing :
NN.info says..มาแล้วฮับ..เบื้องหลังเล่ม 37 ตามสัญญา :)

editorial staff says..
ณัฐนลิน 37 ปิดเล่มเรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้อยู่ในกำมือของร้านเพลท + โรงพิมพ์
กะว่าสักอาทิตย์หนึ่งน่าจะเสร็จเป็นตัวเป็นตน ระหว่างนี้ก็แค่รอตรวจปรู๊ฟ ..นั่งๆนอนๆ

ฉบับนี้เป็นงานภาพถ่ายชุดใหม่ของณัฐนลิน (น้อยไม้) เป็นส่วนใหญ่ แล้วก็มีบางส่วน
ถ่ายโดยเหล่าผู้ช่วยช่างภาพ + staff..นับวันงาน production มันก็เริ่มใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ
เล่มนี้เป็นภาพถ่ายอย่างเดียวนะครับ ไม่มีบทความ คือเป็นคอนเซปเกี่ยวกับความรัก
ในลักษณะของการเริ่มต้นชีวิตคู่ ยังกึ่งๆโรแมนติกอยู่บ้าง
..แต่ไม่เป็นแบบหวานซึ้งอะไร
เพราะณัฐนลินมันคงหวานไม่เป็น (-_-)

คราวนี้ที่เราตัดสินใจว่าต้องไม่มีบทความอะไรเลย เพราะมานั่งดูหลายรอบแล้ว..
คิดว่ารุงรังเกินไปสำหรับคอนเซปของเล่ม อีกอย่างหนึ่งคือ..เราคิดว่า
ความรักคือความเข้าใจ คือการเชื่อใจกันและกัน บางครั้ง..หรือเกือบทุกครั้ง –
ความรักไม่ได้ต้องการคำอธิบาย

สิ่งที่มาจากใจคือความรู้สึก สิ่งที่มาจากสมองคือเหตุผล
ความรักส่วนมากแล้วต้องเกิดจากใจเป็นสำคัญ เพราะถ้าใช้สมองเป็นหลัก..คุณคงไม่
มีวันหลงรักคนเฮงๆซวยๆ และอาจต้องอยู่เป็นโสดขึ้นคานไปทั้งชีวิต เพราะคนเราเมื่อ
รู้จักกันจริงๆแล้ว มันจะมีแต่ข้อเสียมากมาย ..แต่ความรักที่มาจากใจนี่แหละ..ที่ทำให้
คนเรามองข้ามข้อบกพร่องของอีกฝ่ายไปได้ (หรือยอมทนกับมันได้นานๆ)

คือถ้าเรามานั่งอธิบายคุณงามความดีของคนรักได้เป็นฉากๆ ให้เหตุผลชัดเจนมากมาย
มันเริ่มเหมือนกับเรื่องธุรกิจ หรือยุทธวิธีในการแสวงประโยชน์เพื่อตนเอง..จากคนรัก
มากกว่าที่จะเป็นความรักของคนสองคน ถึงจะพูดเรื่องจริง มันก็ยังฟังไม่เข้าท่าอยู่ดี..

หากคุณบอกว่า "แม่งเหี้ยมากเลย แต่กูก็มีความสุขที่ได้อยู่กับมัน" หรือ
"เธอทำอะไรก็ดูดีไปหมด"..ทั้งๆที่คุณอาจเป็นคนเดียวในโลกที่เห็นแบบนั้น
อ่ะนั่นแหละ..คือความรู้สึกจากใจ ไม่ได้มาจากหัวสมอง คือไม่ต้องการเหตุผล
ไม่ต้องการคําอธิบาย ไม่ต้องบรรยาย ไม่ต้องนั่งประดิษฐ์ถ้อยคํา.. และจากแนวคิดนี้
เราจึงสรุปว่า..อย่าเขียนแม่งเลย ปล่อยภาพถ่ายให้เต็มเล่มไปดีกว่า

เหมือนที่บางคนเคยพูดเกี่ยวกับความรักไว้ว่า
there comes a time when you don't need to say anything

(ประเด็นเกี่ยวกับ wedding issue)
หัวข้อบังคับแรกของเล่มนี้คือ..ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับ wedding เท่านั้น

คือมันมีเหตุผลที่มาที่ไป..ซึ่งจะไม่อธิบายในที่นี้ คราวนี้ด้วยความที่มันเป็นหนังสือของ
ณัฐนลิน ภาพถ่ายแต่งงานแบบ wedding studio..เลิกคิด ไม่มีทางเกิดที่นี่แน่นอน
จะเอารูปเจ้าสาวในชุดวิวาห์ไปยืนอยู่ตามโบราณสถานต่างๆ..ก็ไม่ใช่แนวณัฐนลินอีก
จะเป็น document งานแต่งงาน..มันก็สุดจะทานทน (อย่างน้อยพวกกราฟฟิกคงหยิบ
แผ่น DVD / thumb-drive มากระทืบๆๆๆ แล้วประท้วงหยุดงาน) ที่สุดแม้แต่คำว่า
wedding ยังถูกตัดทิ้งไปจากเล่ม ..เหลืออยู่จุดเดียวตรงภาพสีท้ายเล่ม ซึ่งเราใช้คำว่า
wedding snapshots ก็ฟังน่ารักดี กึ่งประชดประชันนิดๆ (ขำๆ) แล้วเราก็ใช้วิธีเดิมๆคือ
ปล่อยให้ภาพถ่าย-ต่อ-ภาพถ่าย ไหลไปเรื่อยๆตามทางของมันจนหมดเล่ม

ประเด็นต่อไปคือ..พอลงรูป portraits ติดกันหลายหน้าเข้า มันเกิดอาการเลี่ยนอย่างบอก
ไม่ถูก จะลงหลายๆคู่..ก็ดูเป็นทางการมากไปอีก เพราะอยากให้เป็นเรื่องความรู้สึกส่วนตัว
เป็นมุมเล็กๆน้อยๆในชีวิต..มากกว่าที่จะให้เป็นคอนเซปในภาพกว้าง
แต่พอเลือกมาแค่คู่เดียวก็เกิดอาการซํ้าซาก เลี่ยนอีก ..เรียกว่าคนแถวนี้เอาใจยากมาก
ก็เลยคิดกันว่าต้องเปลี่ยนสถานที่ ต้องมีรูปที่ไม่มีคนเข้ามาแทรก cityscape เป็นตัว
เลือกอันดับต้นๆ แต่คราวนี้..ถ้าใช้ cityscape / landscape ในเมืองไทย ก็จะดู
คุ้นตาเกินไปอีก ไม่ค่อยเพ้อฝันเท่าไหร่อีก..กลุ้มใจจริงๆ ที่สุดเลยเลือกงานชุดอิตาลี่..
มีงานชุด Rome, Tuscany, Sicily ของช่างภาพอีกคนหนึ่ง คิดว่าเหมาะที่จะลงใน
เล่มนี้ เมืองในฝันของสาวๆหลายคนทีเดียว

แล้วงานก็จบลงเพียงแค่หน้าจอคอมพิวเตอร์
ที่เหลือ..คงต้องเป็นภาระของร้านเพลทกับโรงพิมพ์เท่านั้น

No comments: